การอ้างบุคลหรือสถาบัน ข. การแสดงให้ประจักษ์ถึงความรู้สึกของผู้เขียน ค. การแสดงให้ประจักษ์ตามกระบวนการเหตุผล ง. การกล่าวร่วมๆ ด้วยถ้อยคำหรูหรา 9. " ปัจจุบันผู้หญิงไทยจำนวนมากต้องรับทุกทรมาน บางคนถูกข่มขืน บางคนถูกสามีทำร้ายหรือทอดทิ้งการปล่อยให้เขาหล่านี้แก้ไขปัณหาด้วยตนเอง แทนที่สภาพเขาจะดีขึ้นกลับจะก่อให้เกิดปัญหาสังคมนานาประการตามมา คณะกรรมการจึงจัดตั้ง "บ้านพักฉุกเฉิน" สำหลับคนเหล่านี้ขึ้น เพื่อช่วยแก้ปัณหาต่างๆดังกล่าวการที่ท่านมีเมตตาบริจาคเงินสนับสนุนการดำเนินงานของ "บ้านพักฉุกเฉิน" นอกจากจะเป็นการช่วยดับทุกข์ทางใจให้แก่เขาเหล่านี้แล้ว ยังเป็นการช่วยให้เขามีอาชีพเลี้ยงตนเองได้ในอนาคตอีกด้วย" ข้อความข้างต้นนี้ไม่ใช้กลวิธีใดในการโน้มน้าวใจ ก. การแสงให้ประจักษ์ถึงเหตุผลและความจำเป็น ข. การแสงให้ประจักษ์ถึงอารมรณ์ร่วมและเหตุผล ค. การแสดงให้ประจักษ์ถึงเหตุผลและทางเลือกทั้งดีและเสีย ง. การเร้าให้เกิดอารมณ์อย่างแรงกล้าและกาแสดงให้ประจักษ์ถึงเหตุผล 10. " สิ่งที่ดีในชีวิต คู่ควรสตรีเช่นคุณ" ภาษาโฆษณาดังกล่าวโน้มน้าวใจผู้อ่านอ่านด้วยวิธีใด ก. ใช้วลีสั้นๆ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้ทันที ข. ชี้ให้เห็นความดีของสินค้า ค.
การที่บุคคลเสนอแนะข้อคิดเห็นต่อหน้าที่ประชุมสาธารณะ ค. การที่บุคคลกล่าวแสดงความรู้สึกนึกคิดของตนในห้องบันทึกเสียง ง. การที่บุคคลพูดแสดงความรู้ ความรู้สึกนึกคิดต่อหน้าผู้ฟังจำนวนมาก ๖. ข้อใดเป็นความจำเป็นในการพูดต่อหน้าชุมชน ก. เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ในหมู่คณะ ข. เพื่อขอร้องผู้อื่นให้เห็นความสำคัญของตน ค. เพื่อถ่ายทอดวิทยาการใหม่ ๆ สู่บุคคลอื่น ง. เพื่อให้สมาชิกในสังคมฝึกฝนและนำไปปฏิบัติได้ ๗. ข้อใดไม่ใช่ความสำคัญของการพูดต่อหน้าชุมชน ก. ช่วยทำให้มนุษย์ดำรงชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข ข. ช่วยเผยแพร่ความคิดเห็นของบุคคลได้สะดวกและรวดเร็ว ค. ช่วยให้มนุษย์สามารถชี้แนะการแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้แก่สังคม ง. ช่วยถ่ายทอดวัฒนธรรม ปลูกฝังคุณธรรมและเผยแพร่วิทยาการใหม่ ๆ ๘. การพูดในข้อใดมีจุดมุ่งหมายเพื่อจรรโลงใจผู้ฟัง ก. การเล่าประสบการณ์ชีวิต ข. การเชิญชวนให้เลิกสูบบุหรี่ ค. การพูดหาคะแนนเสียงสนับสนุน ง. การพูดชี้แจงให้ตระหนักในภัยของโรคเอดส์ ๙. การโฆษณาสินค้าที่เราพบเห็นในชีวิตประจำวัน จัดเป็นการพูดเพื่อจุดมุ่งหมายใด ก. การพูดเพื่อจรรโลงใจ ข. การพูดเพื่อโน้มน้าวใจ ค. การพูดเพื่อค้นหาคำตอบ ง. การพูดให้ความรู้และข้อเท็จจริง ๑๐.
สำนวนคำในข้อใดแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการพูด ก. พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง ข. พูดดีเป็นศรีแก่ตัว พูดชั่วอัปราชัย ค. สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล ง. ปากปราศรัย ใจเชือดคอ เฉลยข้อ ค แนวคิด พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง หมายถึง มีคำบางคำพูดไปแล้วอาจไม่เกิดผลดีต่อตัวเองและผู้อื่น เหตุฉะนั้นเลยไม่พูดดีกว่า พูดดีเป็นศรีแก่ตัว พูดชั่วอัปราชัย หมายถึง การเลือกใช้คำพูด ให้พิจารณาเลือกแต่คำพูดที่ดี ถ้าเลือกที่จะพูดไม่ดีจะเกิดผลร้ายกับตัวเอง (เน้นไปที่การเลือกใช้คำ) ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ หมายถึง การพูดดี แต่ประสงค์ร้าย ขอนี้คำตอบเลยเป็น ข้อ ค สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล จึงกลายเป็นความสำคัญของการพูดมากที่สุด ๔. องค์ประกอบใดของการพูดที่สามารถชี้วัดได้ว่าการพูดในครั้งนั้นสัมฤทธิ์ผล ก. ผู้ฟัง ข. สาร ค. สื่อ ง. ผลตอบสนอง เฉลย ง แนวคิด สิ่งที่เป็นตัวชี้วัดว่าการพูดสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่ผลตัวสุดท้าย นั่นคือ ปฏิกริยาตอบกลับ (ผลตอบสนอง) ๕. ข้อใดให้ความหมายของการพูดต่อหน้าชุมชนได้ถูกต้องชัดเจนที่สุด ก. การที่บุคคลแสดงความรู้ ความรู้สึกต่อหน้าคู่สนทนา ข. การที่บุคคลเสนอแนะข้อคิดเห็นต่อหน้าที่ประชุมสาธารณะ ค.
การเล่าประสบการณ์ชีวิต ข. การเชิญชวนให้เลิกสูบบุหรี่ ค. การพูดหาคะแนนเสียงสนับสนุน ง. การพูดชี้แจงให้ตระหนักในภัยของโรคเอดส์ เฉลย ก แนวคิด การพูดเพื่อจรรโลงใจ คือ การพูดเรื่องที่ฟังแล้วสบายใจ ให้ทัศนคติ การเชิญชวนให้เลิกสูบบุหรี่ เป็น การพูดเพื่อจูงใจ(โน้มน้าวใจ) การพูดหาคะแนนเสียงสนับสนุน เป็น การพูดเพื่อชักจูงใจ (หว่านล้อมให้เลือก) การพูดชี้จแงให้ตระหนักในภัยของโรคเอดส์ เป็น การพูดเพื่อให้ความรู้ ๙. การโฆษณาสินค้าที่เราพบเห็นในชีวิตประจำวัน จัดเป็นการพูดเพื่อจุดมุ่งหมายใด ก. การพูดเพื่อจรรโลงใจ ข. การพูดเพื่อโน้มน้าวใจ ค. การพูดเพื่อค้นหาคำตอบ ง. การพูดให้ความรู้และข้อเท็จจริง เฉลย ข แนวคิด การโฆษณา เป็นการเชิญชวนให้เชื่อ โดยจุดประสงค์เพื่อโน้มน้าวใจผู้บริโภคให้หันมาซื้อของที่โฆษณา ๑๐. การกล่าวคำปราศรัยของบุคคลสำคัญ จัดเป็นการพูดในรูปแบบใด ก. การแสดงสุนทรพจน์ ข. การแสดงปาฐกถา ค. การสัมภาษณ์ ง. การอภิปราย เฉลย ก แนวคิด การกล่าวสุนทรพจน์ จัดเป็นการกล่าวคำปราศรัยอย่างหนึ่ง
๑. ข้อใดให้ความหมายของการพูดได้ถูกต้องชัดเจนที่สุด ก. การติดต่อสื่อสารของมนุษย์ด้วยการใช้ถ้อยคำและน้ำเสียง ข. พฤติกรรมการใช้ถ้อยคำ น้ำเสียงและอากัปกิริยาของมนุษย์ ค. การเปล่งเสียงออกมาเป็นถ้อยคำเพื่อการระบายอารมณ์ของมนุษย์ ง. การถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของผู้พูดไปยังผู้ฟังด้วยน้ำเสียง ถ้อยคำและกิริยาท่าทางต่าง ๆ ๒. "เมื่อมีการชุมนุมประท้วงนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็มักจะมีตัวแทนฝ่ายรัฐบาลมาเจรจาทำความเข้าใจแก่กลุ่มผู้ประท้วงอยู่เสมอ" จากข้อความนี้ชี้ให้เห็นว่าการพูดมีความสำคัญอย่างไร ก. การคลี่คลายเหตุการณ์ ข. การเมืองภายในประเทศ ค. มนุษยสัมพันธ์ในชีวิตประจำวัน ง. การปกครองและควบคุมสังคม ๓. สำนวนคำในข้อใดแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการพูด ก. พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง ข. พูดดีเป็นศรีแก่ตัว พูดชั่วอัปราชัย ค. สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล ง. ปากปราศรัย ใจเชือดคอ ๔. องค์ประกอบใดของการพูดที่สามารถชี้วัดได้ว่าการพูดในครั้งนั้นสัมฤทธิ์ผล ก. ผู้ฟัง ข. สาร ค. สื่อ ง. ผลตอบสนอง ๕. ข้อใดให้ความหมายของการพูดต่อหน้าชุมชนได้ถูกต้องชัดเจนที่สุด ก. การที่บุคคลแสดงความรู้ ความรู้สึกต่อหน้าคู่สนทนา ข.
การที่บุคคลกล่าวแสดงความรู้สึกนึกคิดของตนในห้องบันทึกเสียง ง. การที่บุคคลพูดแสดงความรู้ ความรู้สึกนึกคิดต่อหน้าผู้ฟังจำนวนมาก เฉลย ง แนวคิด ในการพูดต่อหน้าที่ชุมชน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การถ่ายทอดความรู้ ความรู้สึกนึกคิด ไปยังผู้ฟัง ข้อนี้คำตอบจึงเป็นข้อ ง เพราะครอบคลุมเนื้อหาและความหมายมากที่สุด ๖. ข้อใดเป็นความจำเป็นในการพูดต่อหน้าชุมชน ก. เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ในหมู่คณะ ข. เพื่อขอร้องผู้อื่นให้เห็นความสำคัญของตน ค. เพื่อถ่ายทอดวิทยาการใหม่ ๆ สู่บุคคลอื่น ง. เพื่อให้สมาชิกในสังคมฝึกฝนและนำไปปฏิบัติได้ เฉลย ค แนวคิด จากข้อที่แล้วสิ่งที่จำเป็นที่สุดในการพูดต่อหน้าที่ชุมชนคือ การถ่ายทอดคามรู้ ความรู้สึกนึกคิด ไปยังผู้ฟัง ๗. ข้อใดไม่ใช่ความสำคัญของการพูดต่อหน้าชุมชน ก. ช่วยทำให้มนุษย์ดำรงชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข ข. ช่วยเผยแพร่ความคิดเห็นของบุคคลได้สะดวกและรวดเร็ว ค. ช่วยให้มนุษย์สามารถชี้แนะการแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้แก่สังคม ง. ช่วยถ่ายทอดวัฒนธรรม ปลูกฝังคุณธรรมและเผยแพร่วิทยาการใหม่ ๆ เฉลย ก แนวคิด จากคำตอบทั้งหมด ข้อ ก เป็นข้อที่ตรงความหมายของการพูดต่อหน้าที่ชุมชนน้อยที่สุด ๘. การพูดในข้อใดมีจุดมุ่งหมายเพื่อจรรโลงใจผู้ฟัง ก.