ลือชัย ลงนาม กับรัฐบาลจีนที่มีนายสู จีคี ประธานบริษัทCSOC เป็นตัวแทน ซึ่งสัญญาเป็นการซื้อขายแบบจีทูจี แต่เหตุใดตอนจ่ายเงิน รัฐบาลไทยจึงจ่ายเข้าบัญชีของบริษัทCSOC ที่ปักกิ่ง ทำไมไม่จ่ายเงินไปที่กระทรวงกลาโหมของจีน หรือรัฐบาลจีน" นายยุทธพงศ์ กล่าว นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีคนติดเชื้อโควิดวันละหมื่นกว่าคน ระบบสาธารณสุขเราสู้ไม่ได้ คนป่วยล้น คนรอเข้าการรักษาอยู่จำนวนมาก ขณะเดียวกันประชาชนจำนวนมากอดอยากหิวโหยแต่รับบาลภายใต้การนำของพล. ประยุทธ์ กลับจะไปซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน แล้วพล. ประยุทธ์อย่าบอกว่าไม่รู้เรื่อง ไม่ได้นะ เพราะท่านในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ต้องเป็นผู้ลงนามในสัญญา และในฐานะนายกฯ ที่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านการพิจารณาของครม. ท่านไม่สงสารประชาชนเลยหรือ แล้วท่านไม่สงสัยในประสิทธิภาพของเรือดำน้ำหรือ เหตุใดท่านไม่เอาลำแรกมาลองใช้กอน ทำไมจึงต้องเร่งซื้อทีเดียวถึง 2 ลำ พรุ่งนี้ (19 ก. ) จะมีการประชุมของ กมธ. งบฯ 65 ซึ่งเป็นการประชุมออนไลน์ โดยกมธ. ซีกรัฐบาลไม่ยอมให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้ง 4 ท่าน มาชี้แจง อ้างว่ากลัวโควิดฝ่ายค้านพยายามต่อสู้ให้ผบ. เหล่าทัพมาชี้แจง แต่กมธ.
ลือชัยออกหนังสือไปวันที่ 24 กันยายน 63 จะให้ทางจีนมาเซ็นต์ก่อนวันที่ 30 กันยายน 63 หรือก่อนที่ พล. ลือชัย จะเกษียณ ด้วยสถานการณ์โควิด จะเดินทางเข้าประเทศได้ต้องมีการกักตัวจึงบอกว่า ถ้าทางจีนมาไม่ได้ก็ขอให้เอาคนจากสถานทูตจีนในประเทศไทยก็ได้ นี่คือข้อพิรุธหรือไม่ นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในหนังสือยังอ้างถึงเรืออีก 1 ลำ คือเรือ LPD สนับสนุนเรือดำน้ำที่กองทัพเรือของไทยซื้อมาจากประเทศจีนเช่นกัน โดยเรือลำนี้มูลค่า 6, 200 ล้านบาท แต่ไม่มีระบบอำนวยการรบ และระบบใดๆทั้งที่ต้องมีด้วย แต่ได้เรือมาเปล่าๆ พล. ลือชัย จึงเขียนหนังสือไปขออาวุธปืนเขา ซึ่งเรือลำนี้ในงบปี 65 ที่พรุ่งนี้ (19 กรกฎาคม) จะมีการพิจารณานั้นมีการของบฯเข้ามา 1, 800 ล้านบาท สรุป การไปขอร้องบริษัทจีนดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นว่า ตนเองเร่งรัดเซ็นสัญญาซื้อเรือ LPD มูลค่า 6, 200 ล้านบาท และเรือดำน้ำ 2 ลำ มูลค่า 22, 500 ล้านบาทในช่วงที่ตนเองเป็น ผบ. เท่านั้น โดยอ้างว่ามีงบประมาณจำกัด เอาตัวเรือมาก่อน โดยไม่ได้คำนึงถึงประสิทธิภาพของเรือแม้แต่น้อย และเป็นการแสดงให้เห็นว่า ทร. ไปต่อเรือลำนี้มาโดยไม่มีความพร้อมในด้านการรบเลยแม้แต่น้อยเป็นการซื้อที่ขาดแผนงาน และคำนึงถึงแต่ประโยชน์ที่ไปซื้อเรือเท่านั้น และที่เสียหายมากที่สุดคือการไปร้องขอให้เขาติดตั้งระบบอำนวยการรบ ระบบอาวุธต่างๆให้ เป็นการเสียชื่อเสียงของประเทศไทยมาก "สัญาญาระหว่างกองทัพเรือไทย และประเทศจีนผ่านบริษัท china shipbuilding & offshore international co. ltd (CSOC) ในการจัดซื้อเรือดำน้ำลำแรก และลำที่ 2 และ 3 ที่มีลักษณะเดียวกันนั้น ระบุรับบาลจีนมอบอำนาจให้บริษัทนี้เป็นตัวแทนฝ่ายจีนต่อเรือดำน้ำระหว่างรัฐบาลไทยที่มีพล.