เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๐ มีผู้เชี่ยวชาญการศึกษาปฐมวัยของฟินแลนด์มาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และประสบการณ์ที่กรุงเทพ รศ. ประภาภัทร นิยม กรุณาส่งสรุปสาระมาให้ จึงนำมาเผยแพร่ต่อ ที่นี่ ครูทุกคนอย่าลืมเพ่งอ่านประโยคสุดท้ายในเอกสารด้วยนะครับ ชมวีดิทัศน์ได้ที่ ๑, ๒ วิจารณ์ พานิช ๓๐ เม. ย. ๖๐
สทศ. อ. ก. ค. ศ. เป็นต้น กรรมการเหล่านี้ ไม่มีหน้าที่ ไม่มีความรับผิดชอบต่อการจัดการศึกษาในเขตพื้นที่ฯและในโรงเรียนเลย แต่กลับเข้ามามีอำนาจเหนือ สั่งย้ายครู ย้ายผู้บริหาร ให้ความดีความชอบ ลงโทษครู และชี้เป็นชี้ตายโรงเรียน เป็นการออกแบบองค์กรที่ผิดพลาด เป็นกฎหมายแห่งความไม่ไว้วางใจหวาดระแวง (Paranoid law) ตั้งคนที่ไม่มีหน้าที่ ไม่มีความรับผิดชอบ เข้ามาควบคุมตรวจสอบการทำงานของผู้มีความรับผิดชอบ เข้ามาใช้อำนาจแทรกแซงแสวงหาผลประโยชน์มิชอบ ซึ่งไม่มีประเทศใดในโลกเขาทำกัน การศึกษาไทยจึงหลงอยู่ในวังวนเช่นทุกวันนี้ First posted: 4 ธันวาคม 2557 | 09:03 Source: หนังสือพิมพ์มติชน
1-ม. 3) อายุตั้งแต่ 7-16 ปี หลักสูตร 9 ปี จำนวนเด็กต่อห้อง 12-20 คน เน้นการสอนในทักษะที่สำคัญสำคัญ 3 วิชา ได้แก่ การอ่าน (Reading) คณิตศาสตร์ (Mathematics) และวิทยาศาสตร์ (Science) แล้วจึงจัดให้ได้เรียนทักษะอื่นๆ เพิ่มเข้ามาอีกคือ สังคมศึกษา ศิลปะ ดนตรี พลศึกษา และให้การได้รับฝึกทักษะ ชำนาญการปฏิบัติต่างๆ (Practical skill) ที่เป็นการพัฒนาเด็กแบบรอบด้าน ในระดับ ป. 1-2 (เกรด 1-2) ประถมศึกษาตอนต้น ด้านภาษา มุ่งเน้นการพัฒนากลุ่มวิชาภาษาแม่ Mother tongue ซึ่งจะใช้เป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาความสามารถด้านการรู้หนังสือของเด็ก กิจกรรมการเรียนรู้ในระดับนี้ มีเป้าหมายการเรียนอยู่ 3 ด้านคือ 1) ทักษะด้านการมีปฏิสัมพันธ์ (Interaction skill) ได้แก่ การรู้จักตั้งคำถาม การพูด การแสดงออก 2) ทักษะการอ่าน การเขียน การจดจำคำ การใช้คำ การแต่งประโยค เขียนและอ่านเอกสารต่างๆ ในชีวิตประจำวัน 3) ทักษะการอ่านวรรณคดี วรรณกรรม การอ่านตีความ การเชื่อมโยงประสบการณ์จากเรื่องที่อ่านกับตนเอง ในระดับ ป.